แรงดันไฟฟ้า | 250V, 50Hz |
ปัจจุบัน | สูงสุด 16A |
พลัง | สูงสุด 4000W |
วัสดุ | ตัวเรือน PP + ชิ้นส่วนทองแดง |
ช่วงเวลา | 15 นาทีถึง 24 ชั่วโมง |
อุณหภูมิในการทำงาน | -5 ℃ ~ 40 ℃ |
การบรรจุส่วนบุคคล | ตุ่มที่ติดอยู่หรือปรับแต่งเอง |
รับประกัน 1 ปี |
ตั้งค่านาฬิกา
*หมุนหน้าปัดตามเข็มนาฬิกาและปรับเวลาปัจจุบันให้ตรงกับลูกศรสีดำ ▲ (รูปที่ 01=22:00)
*จานหมุนสามารถหมุนตามเข็มนาฬิกาเท่านั้น และห้ามหมุนกลับด้าน
การเขียนโปรแกรม/กำหนดการ
*กด PIN เดียวลงทุกๆ 15 นาทีของเวลา ON (รูปที่ 02)
เช่น หากคุณต้องการให้ตัวจับเวลาให้กำลังระหว่าง 11:00 ถึง 12:00 น. ให้กดหมุดทั้งสี่ลงระหว่าง 11:00 ถึง 12:00 น.
*เสียบตัวจับเวลาเข้ากับเต้ารับ
*เชื่อมต่อสิ่งอำนวยความสะดวกนี้กับเครื่องใช้ในครัวเรือน
การเลือกโหมด
*เลื่อนสวิตช์สีแดงลงเพื่อเปิดใช้งานตัวจับเวลา (รูปที่ 03) ขณะนี้ระบบจะเปิดเครื่องตามการกำหนดค่า PIN
*เลื่อนสวิตช์ขึ้นเพื่อปิดใช้งานตัวจับเวลา พลังงานจะเปิดอยู่เสมอ
การรับรอง CE:การรับรอง CE หมายความว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย สุขภาพ และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป ซึ่งช่วยให้สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างถูกกฎหมายภายในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA)
การทำงานของเครื่องกล:ตัวจับเวลาแบบกลไกมักจะมีการออกแบบที่เรียบง่ายกว่าเมื่อเทียบกับตัวจับเวลาแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้เชื่อถือได้มากขึ้นในบางการใช้งาน
ความทนทาน:ตัวจับเวลาแบบกลไกอาจเสี่ยงต่อการทำงานผิดพลาดทางอิเล็กทรอนิกส์น้อยกว่า และอาจมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าในบางสภาพแวดล้อม
การออกแบบที่ใช้งานง่าย:ตัวจับเวลาแบบกลไกได้รับการออกแบบให้มีการควบคุมที่ตรงไปตรงมา ทำให้ง่ายต่อการตั้งค่าและใช้งานโดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคขั้นสูง
ไม่มีการพึ่งพาพลังงาน:โดยทั่วไปแล้วตัวจับเวลาแบบกลไกไม่ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานภายนอก จึงช่วยลดความจำเป็นในการใช้แบตเตอรี่หรือแหล่งจ่ายไฟคงที่
จับเวลาแบบ 24 ชั่วโมง:ความสามารถในการจับเวลาแบบ 24 ชั่วโมงช่วยให้แอปพลิเคชันต่างๆ เช่น อุปกรณ์ตั้งเวลาหรือระบบเปิดหรือปิดตามเวลาที่กำหนดตลอดทั้งวัน
ความสามารถในการจ่าย:ตัวจับเวลาแบบกลไกมีแนวโน้มที่จะคุ้มค่ากว่าตัวจับเวลาแบบดิจิทัลหรืออิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่คำนึงถึงงบประมาณ
ไม่มีขยะอิเล็กทรอนิกส์:ตัวจับเวลาแบบกลไกมักสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์น้อยลง เนื่องจากอาจไม่มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่รีไซเคิลได้ยาก
การทำงานแบบไม่ใช้แบตเตอรี่:ตัวจับเวลาทำงานโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ได้รับประสบการณ์ที่ยั่งยืนและไม่ยุ่งยากมากขึ้น